Zeniq Holistic - ฉีดฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ Filler คืออะไร? ฉีดตรงไหนได้บ้าง? ฉีดแล้วผิวหน้าจะเปลี่ยนไปอย่างไร?
ใครที่กำลังมองหาวิธีทำให้ใบหน้าดูเด็กลง อิ่มเอิบ และมีมิติมากขึ้น Filler อาจเป็นคำตอบที่คุณกำลังมองหา! วันนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ Filler ให้มากขึ้น ทั้งเรื่องของประเภท ตำแหน่งที่สามารถฉีดได้ และการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นกับใบหน้าของคุณหลังการฉีด พร้อมตอบทุกข้อสงสัยที่คุณอยากรู้ก่อนตัดสินใจ
ฉีด Filler ปลอดภัยไหม
การฉีด Filler ถือเป็นหัตถการที่ค่อนข้างปลอดภัย เนื่องจากสารที่ใช้คือกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) เป็นสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติในร่างกายมนุษย์ อย่างไรก็ตาม ความปลอดภัยในการฉีด Filler นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญหลายอย่าง ดังนี้
- คุณภาพของ Filler ที่ใช้: ต้องเป็น Filler แท้ที่ได้รับการรับรองจาก อย. และนำเข้าจากบริษัทที่น่าเชื่อถือเท่านั้น
- สถานที่ให้บริการ: ต้องเป็นคลินิกหรือโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน มีใบอนุญาตถูกต้อง และมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ผ่านการฆ่าเชื้อตามมาตรฐาน
- แพทย์ผู้ฉีดต้องเป็นแพทย์ที่ได้รับการอบรมเฉพาะทาง: มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการฉีด Filler โดยเฉพาะ รวมถึงต้องมีความเข้าใจในกายวิภาคของใบหน้าอย่างลึกซึ้ง
อ่านเพิ่มเติม
Filler มีกี่ประเภท
Filler คือสารที่ใช้ฉีดเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อเพิ่มปริมาตรให้กับใบหน้า ช่วยลดเลือนริ้วรอย และปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น โดยทำมาจากกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติในร่างกายมนุษย์ โดย Filler จะมี 3 ประเภท ดังนี้
1. Filler เนื้อนิ่ม- ลักษณะ: มีความยืดหยุ่นสูง เนื้อสารละเอียด
- เหมาะสำหรับ: บริเวณที่ต้องการความอ่อนนุ่มเป็นธรรมชาติ เช่น ริมฝีปาก
- ข้อดี: ให้ความรู้สึกนุ่มเป็นธรรมชาติ
- ข้อเสีย: อยู่ได้ไม่นานเท่าชนิดอื่น
- ลักษณะ: มีความหนืดสูง เนื้อแน่น
- เหมาะสำหรับ: การเพิ่มโครงหน้า เช่น คาง โหนกแก้ม
- ข้อดี: อยู่ได้นาน ให้มิติชัดเจน
- ข้อเสีย: อาจรู้สึกแข็งเมื่อสัมผัส
- ลักษณะ: เนื้อบางเบา ละเอียด
- เหมาะสำหรับ: บริเวณผิวบาง เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม
- ข้อดี: ดูเป็นธรรมชาติมาก
- ข้อเสีย: ต้องใช้ปริมาณมากกว่าชนิดอื่น
การเตรียมตัวก่อนฉีด Filler
การเตรียมตัวที่ดีจะช่วยให้การฉีด Filler ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดี จึงควรปฏิบัติดังนี้
- งดการใช้ยาต้านการอักเสบ เช่น แอสไพริน อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- งดการดื่มแอลกอฮอล์ 24-48 ชั่วโมงก่อนฉีด
- งดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Retinol 1 สัปดาห์
- ทำความสะอาดหน้าให้สะอาด ไม่ควรแต่งหน้ามา
- ควรแจ้งว่ามีประวัติการแพ้ยาหรือไม่
- ควรมาพบแพทย์ในขณะที่สุขภาพแข็งแรง
การดูแลตัวเองหลังฉีด Filler
หลังฉีด Filler ควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดเพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ
- ห้ามนวด หรือกดบริเวณที่ฉีดอย่างน้อย 1 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก 24-48 ชั่วโมง
- งดการอาบน้ำร้อน ซาวน่า 24 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำ 1 สัปดาห์
- ใช้เจลประคบเย็นเพื่อลดอาการบวม
- ทาครีมกันแดดทุกครั้งที่ออกแดด
- มาตามนัดเพื่อติดตามผล
หากฉีดแล้ว จะมีผลข้างเคียงหรือไม่
แม้ว่าการฉีด Filler จะเป็นหัตถการที่ปลอดภัย แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้บ้าง เช่น รอยช้ำ อาการบวม หรือรอยแดงบริเวณที่ฉีด ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติและจะหายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์ ผู้ที่สนใจฉีด Filler ควรศึกษาข้อมูลให้ดี และที่สำคัญไม่ควรเลือกสถานที่ฉีดเพียงเพราะราคาถูก ควรคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก นอกจากนี้ ควรแจ้งประวัติการแพ้ยาและโรคประจำตัวให้แพทย์ทราบก่อนการฉีดทุกครั้ง และปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลตัวเองทั้งก่อนและหลังการฉีดอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยที่สุด